คำแนะนำดูแลสุขภาพจิตใจเด็กหลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว

เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นวันนี้ หลายคนอาจยังรู้สึกตกใจ วิตกกังวล หรือไม่มั่นคง โดยเฉพาะเด็ก ๆ ซึ่งอาจยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และอาจรู้สึกกลัวแบบที่แสดงออกมาไม่ชัดเจน

จึงขอแบ่งปันคำแนะนำสำหรับผู้ปกครองดังนี้

1. กอดและให้ความมั่นใจ

เด็กจะรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นเมื่ออยู่กับผู้ใหญ่ที่ใจเย็น กอดเขา พูดคุยด้วยน้ำเสียงสงบมั่นคง และย้ำว่า “หนูปลอดภัยแล้วนะ”

2. เปิดโอกาสให้เด็กพูดหรือวาดภาพ

เด็กบางคนอาจเล่าเหตุการณ์ หรือระบายความรู้สึกผ่านการวาดรูปหรือเล่นบทบาทสมมติถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ให้ปล่อยเขาได้แสดงออกโดยไม่รีบห้าม

3. เลี่ยงการเปิดข่าวซ้ำ ๆ โดยเฉพาะภาพข่าวรุนแรง เช่น ตึกถล่ม

แม้เด็กจะดูเหมือนนิ่งเฉย แต่การได้รับข้อมูลซ้ำ ๆ โดยเฉพาะข่าวที่มีภาพน่ากลัว เสียงดัง หรือคำพูดรุนแรง อาจกระตุ้นความกลัวและทำให้เครียดโดยไม่รู้ตัว

แนะนำให้ผู้ปกครอง “ติดตามเฉพาะข่าวสารอัพเดตเพื่อการเฝ้าระวัง” จากแหล่งข่าวทางการ และลดการเปิดข่าวให้เด็กได้ยินหรือเห็นโดยไม่จำเป็น

4. กลับเข้าสู่กิจวัตรเดิมให้เร็วที่สุด เช่น กินข้าว นอนเวลาเดิม เล่นหรือเรียนตามปกติ เพื่อให้สมองรู้สึกว่า “ทุกอย่างเริ่มปกติแล้ว”

5. สังเกตสัญญาณความเครียด

เช่น นอนไม่หลับ ฝันร้าย เกาะติดผู้ปกครองมากขึ้น ปวดท้อง ปวดหัวโดยไม่มีสาเหตุ หากอาการเหล่านี้เป็นนานเกิน 1–2 สัปดาห์ อาจปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

6. คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับเด็กที่อยู่ในคอนโด

เด็กที่อาศัยอยู่ในอาคารสูงอาจรู้สึก “ไม่ปลอดภัย” มากกว่า เพราะรับรู้แรงสั่นไหวชัดเจน หรือรู้สึกตัวโยกไหวไปตามตึก และได้ยินเสียงจากผนัง/เพดานที่โยกตามแรงสั่น

สิ่งที่ช่วยได้คือ

อธิบายให้ลูกเข้าใจว่าอาคารสูงสร้างให้ “ยืดหยุ่น” และสามารถรับแรงสั่นได้

ฝึกลูกให้รู้จักทางหนีไฟและจุดรวมพล แผนปฏิบัติในครอบครัวว่าถ้าเกิดเหตุการณ์เราจะไปเจอที่จุดนัดพบตรงไหน เช่น ถ้าออกจากตึกได้ภายใน 1 นาที ให้ออก แต่ถ้าอยู่บนคอนโดสูงให้หาที่หมอบหลบใต้โต๊ะ เป็นต้น

ถ้าอยู่คอนโด ให้เลือกมุมที่ปลอดภัย เช่น ใต้โต๊ะมุมห้อง หรือใกล้ผนังรับแรง แล้วบอกว่า “หากเกิดเหตุ เราจะมาที่ตรงนี้ด้วยกัน”

ให้เวลากับเด็ก หากเด็กยังไม่พร้อมในการขึ้นลิฟต์หรือกลัวความสูง ถ้าเด็กกลัวมากและมีความจำเป็นต้องขึ้นตึก ให้ช่วยผ่อนคลายด้วยการ หายใจเข้า-ออก ยาวๆ แล้วให้ความเชื่อมั่นว่าคุณจะอยู่กับเขาตลอด

การที่เด็กเข้าใจ “สิ่งที่ได้ยินและรู้สึก” จะช่วยลดความกลัวที่เกิดจากจินตนาการเกินจริงได้มาก

แม้เหตุการณ์จะจบไปแล้ว แต่ “ความรู้สึก” ของเด็กยังคงอยู่

การฟังด้วยใจและให้พื้นที่ปลอดภัยแก่เขา รวมถึงการสนับสนุนของครอบครัวคือสิ่งสำคัญสุดในเวลานี้

เอกสารอ้างอิง

มหาวิทยาลัยมหิดล.(2568).คำแนะนำดูแลสุขภาพจิตใจเด็กหลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหว.

สืบค้น : 2 เมษายน 2568, จาก https://www2.si.mahidol.ac.th