แผลใจในวัยเด็ก…เรื่อง(ไม่)เล็ก…ที่ไม่ควรมองข้าม

ประสบการณ์เลวร้ายที่สร้างบาดแผลทางใจในวัยเด็ก (Adverse Childhood Experience : ACE)
คือสถานการณ์ที่ทำให้เด็กได้รับการกระทบกระเทือนด้านจิตใจ ตกอยู่ในสภาวะเครียดอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน      โดยสามารถเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ในที่นี้จะขอกล่าวถึงเฉพาะประเด็นบาดแผลทางใจในวัยเด็กที่เกิดจากพ่อแม่ หรือ ผู้เลี้ยงดู ซึ่งแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่

1. การทารุณ (Abuse) : การทำร้ายร่างกาย การทำร้ายความรู้สึก การทำร้ายทางเพศ

2. การเพิกเฉย (Neglecy) : การไม่แสดงความรัก การไม่ทำให้รู้สึกว่ามีตัวตน การเพิกเฉยต่ออารมณ์และความต้องการของเด็ก

3. เรื่องในครอบครัว (Household dysfunction) : การเห็นผู้เลี้ยงดูถูกทำร้ายร่างกายการอยู่กับผู้เลี้ยงดูที่ใช้สารเสพติด การถูกเลี้ยงดูโดยผู้ป่วยทางจิต การที่พ่อแม่หย่าร้าง ฯลฯ

เมื่อเด็กไม่มีวุฒิภาวะและความสามารถเพียงพอในการออกจากสถานการณ์ที่เลวร้าย ต้องอยู่ในสถานการณ์ ที่ทำให้เกิดความเครียด กลัว หรือกังวล อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน สมองสั่งการให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียด ได้แก่ คอร์ติซอล (Cortisol) และอะดรีนาลีน (Adrenaline) กระตุ้นการทำงานของอวัยวะหลายส่วนเพื่อให้ร่างกายพร้อมสำหรับการเอาตัวรอด เช่น ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเร็วขึ้น อีกทั้งความเครียดเรื้อรังยังส่งผลต่อการอักเสบ ในร่างกายส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันและเกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับพันธุกรรม สมองส่วนอะมิกดาลา (Amygdala) ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการตอบสนองด้านอารมณ์เมื่ออยู่ในสภาวะเครียดถูกกระตุ้นให้ทำงานอย่างต่อเนื่องทำให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ในขณะที่สมองที่ใช้เหตุผล คิดวิเคราะห์กลับมีขนาดเล็กลง (เนื่องจากไม่ได้ถูกใช้งาน) ส่งผลให้เด็กมีปัญหาด้านการเรียนรู้ การควบคุมอารมณ์

มีงานวิจัยที่บ่งชี้ว่า ในระยะยาวบาดแผลทางใจในวัยเด็กส่งผลประทบต่อการดำเนินชีวิตในวัยผู้ใหญ่ โดยพบว่า วัยผู้ใหญ่ที่มีบาดแผลทางใจในวัยเด็กมีความสัมพันธ์กับการมีโรคประจำตัว โรคทางจิตเวช และโรคซึมเศร้า อีกทั้ง การมีโรคประจำตัวเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องและโรคทางจิตเวชมีความสัมพันธ์กับความภาคภูมิใจในตนเอง นอกจากนี้       ยังพบว่าผู้ที่มีคะแนนบาดแผลทางใจในวัยเด็กในระดับสูงจะส่งผลให้คะแนนความภาคภูมิใจในตนเองอยู่ในระดับต่ำ    อีกด้วย นายแพทย์ศุภณัฐ วิโนทัย ผู้ช่วยอาจารย์ประจำสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ได้แนะนำไว้ว่า การสร้างความยืดหยุ่นทางจิตใจ (Resilience) ช่วยให้เด็กได้มีความสัมพันธ์ที่รู้สึกมั่นคง ปลอดภัย และไว้ใจได้ พร้อมฝึกทักษะการควบคุมตนเอง (EF – Executive Functions) และเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิตด้านบวกให้แก่เด็กด้วยศิลปะ ดนตรี กีฬา อาหาร และการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ฯลฯ จะสามารถช่วยเยียวยาเด็กที่ได้รับประสบการณ์เลวร้าย

เอกสารอ้างอิง

ฐิติรัตน์ เดชพรหม. (2567). ม.มหิดลเร่งเยียวยา เด็ก ACE’ บอบช้ำจากความรุนแรง แนะเลี่ยง ‘Re-Trauma’ ถามซ้ำเจ็บซ้ำ. สืบค้น 20 ธันวาคม 2567, จาก http://www.medi.co.th

ณัฐชลภัณ หอมแก้ว. (2564). เมื่อ ‘โรคร้าย’ ถูกนำทางด้วย ‘บาดแผล’ ในวัยเด็ก. สืบค้น 20 ธันวาคม 2567, จาก https://www.thecoverage.info

อภิรดา มีเดช. (2565). Brief – เสวนาสาธารณะ “เด็กที่เจ็บปวดคือผู้ใหญ่ที่เจ็บป่วย”. สืบค้น 20 ธันวาคม 2567, จาก https://bookscape.co/brief-the-deepest-well

Atchariya Aphiwatthanakul, Parichawan Chandarasiri. (2020). Self-esteem of parents and adverse childhood experiences. Chula Med Bull, Vol. 2, No. 1, 27-37 (In Thai)