สสส.และเครือข่ายงดเหล้า เดินหน้าต่อเนื่อง “ปลูกพลังบวก” สร้างภูมิคุ้มกันลดปัจจัยเสี่ยงเหล้า-บุหรี่ ปฐมวัย ตั้งเป้าขยาย พื้นที่เพิ่ม 5 จังหวัด

วันที่ 9 เม.ย. 2567 สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และได้รับความร่วมมือจาก สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) สำนักงานส่งเสริมปกครองท้องถิ่นจังหวัด (สถ.จ.) และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ด้วยทุกหน่วยงานต่างเห็นพ้องต้องกันถึงความสำคัญของการปลูกต้นกล้าให้แข็งแรงซึ่งเปรียบเสมือนเด็กปฐมวัยให้เติบโตขึ้นเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าในอนาคต ดังนั้น หากต้นกล้าไม่สมบูรณ์แข็งแรงก็ยากที่จะเติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพได้

ปัจจุบันพบว่า มีนักสูบบุหรี่ นักดื่มเหล้าหน้าใหม่ในช่วงอายุ 13-15 ปี เพิ่มขึ้น ร้อยละ 4.96 มีนักสูบบุหรี่ นักดื่มที่มีอายุน้อยลง มีอัตราเพิ่มขึ้น เช่น เด็ก 7 ปี เริ่มดื่มเหล้า ทั้งยังพบว่า คนไทยดื่มเหล้ามากเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน (องค์การอนามัยโลก) จากการรณรงค์เมาไม่ขับ ของ สคล.- สสส. และรัฐบาล ในเทศกาลสงกรานต์ จะเห็นว่ามีอุบัติเหตุเกิดมากขึ้นทุกปี โดยมีสาเหตุหลัก คือ เมาแล้วขับ ซึ่งส่งผลเสียหายอย่างมหาศาลกับชีวิต ทรัพย์สิน และเศรษฐกิจของชาติ จากข้อมูลจะเห็นว่า ปัจจัยเสี่ยง เรื่องเหล้า และบุหรี่ มีเพิ่มขึ้นในเด็กและเยาวชนโดยเฉพาะที่สำคัญคือ ปัจจัยเสี่ยงเริ่มมีอายุน้อยลงมาจนถึงเด็กปฐมวัย

จากสถานการณ์ดังกล่าว จึงเป็นที่มาของการดำเนินงานเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการปลูกพลังบวกเพื่อสร้างจิตสำนึกภูมิคุ้มกันลดปัจจัยเสี่ยงสำหรับเด็กปฐมวัย ในการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยการสร้างภูมิคุ้มกันตั้งแต่เด็กปฐมวัย ไม่ให้มีปัจจัยเสี่ยง เรื่องสุราและบุหรี่ ด้วยการพัฒนาเด็กให้มีสุขภาพดี มีทักษะชีวิต มีทักษะการคิด มีเหตุผล รู้เท่าทันปัจจัยเสี่ยง และสามารถแยกแยะสิ่งที่ดีกับสิ่งไม่ดี รู้จักปฏิเสธสิ่งที่ไม่ดี ผ่านสื่อการเรียนการสอนในรูปแบบที่เด็ก ๆ สามารถฝึกสติผ่านการเรียนรู้ที่เหมาะสมตามวัย เป็นการปลูกฝังจิตสำนึกเด็กตั้งแต่ปฐมวัย ช่วยปกป้องเด็กจากปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพได้อย่างรอบด้าน

นายศรีสุวรรณ ควรขจร กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และรองประธานคณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 1 กล่าวว่า ระบบนิเวศของเด็กปฐมวัยไม่มีความซับซ้อนเลย เด็กจะมีครอบครัว ญาติ และคุณครูที่ศูนย์เด็กเล็กเท่านั้น เราสามารถที่จะปลูกฝังค่านิยมหรือหลักคิดที่เรียกว่า Critical Thinking การคิดที่มีลักษณะของการประเมิน ใช้ดุลพินิจ วิเคราะห์แยกแยะได้ว่าอะไรดีหรือไม่ดี ซึ่งวัยนี้เป็นช่วงวัยสำคัญมาก ประเทศต้องลงทุนกับเด็ก ๆ เหล่านี้ ให้เขามีความแข็งแรง ถ้าเราไม่สร้างภูมิคุ้มกันให้เขาเมื่อเด็กกลับไปสู่ระบบระบบนิเวศเดิม ๆ เด็กจะถูกกลืนอยู่กับความเคยชินที่ว่า เหล้า-บุหรี่ เป็นเรื่องปกติ แต่หากเด็กมีภูมิคุ้มกันพวกเขาจะไป Empower ผู้ใหญ่ให้ลด ละ เลิก เหล้า-บุหรี่ ได้

นางมาลี นวนแปง ครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลเมืองน่าน (ศพด.ทม.น่าน) เผยถึงความรู้สึกในโอกาสที่บูธได้รับคะแนนโหวตสูงสุดจากผู้เข้าร่วมงานว่า ดีใจมาก ๆ กับสิ่งที่ตั้งใจออกแบบพัฒนาสื่อการเรียนรู้มาโชว์และแชร์ในครั้งนี้ สื่อที่เราพัฒนาต่อยอดจากโครงการฯ เวลาออกแบบจะพยายามคิดรูปแบบที่ให้เด็กรู้สึกสนุกสนาน อย่างเช่น มหัศจรรย์ไฟสัญญาณ เด็ก ๆ จะชอบมากเลย เราจะมีแผ่นตารางซึ่งจะมีรูป เหล้า บุหรี่ ผัก ผลไม้ ทอฟฟี่ ฯลฯ พอเด็กเดินไปที่ช่องเหล้า เราก็จะกดไฟแดงพร้อมทั้งอธิบายว่าห้ามกินอันตรายต่อสุขภาพ ผักผลไม้ ไฟเขียว สามารถกินได้ และทอฟฟี่ จะเป็นไฟเหลือง เด็กจะรับรู้ว่ากินได้แต่ไม่ควรกินเพราะจะทำให้ฟันผุ เราจะสอนแบบซ้ำ ๆ เหมือนเดิมทุกวัน ทำ ซ้ำ ย้ำ ทวน อย่างนี้ไป การปลูกพลังบวกเพื่อสร้างจิตสำนึกภูมิคุ้มกัน ต้องทำอย่างเข้มข้นต่อเนื่องอย่างน้อย 21 ครั้ง จึงจะเกิดผล (ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์) ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้จะติดตัวเด็กไปจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่

นางสาวจิรภา เทียนทองมงกล โรงเรียนวัดบ้านหล่า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 2 (สพป.ชม.เขต 2) กล่าวว่า ต้องขอบคุณเครือข่ายงดเหล้าที่จัดงานนี้ขึ้นมา ทำให้เราได้มาเห็นและได้เรียนรู้รูปแบบสื่อการสอนแบบใหม่ ๆ เพื่อนำกลับไปพัฒนาเพิ่มเติม โรงเรียนของเราเพิ่งเข้าโครงการฯ และผู้บริหารให้ความสำคัญมาก บรรจุเข้าในแผนการศึกษาฉบับเพิ่มเติมของโรงเรียน โดยเริ่มจากนำชุดสื่อการสอนของโครงการพลังบวกฯ มาใช้ ต่อมาจึงเริ่มพัฒนาเป็นชุดสื่อการสอนของเราเอง ใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย ตั้งกลุ่มเฟซบุ๊กและกลุ่มไลน์ครู-ผู้ปกครอง ทุกวันศุกร์ให้เด็กเอานิทานและแบบวาดรูปกลับบ้านไปทำกับผู้ปกครอง ๆ ถ่ายคลิปวิดีโอส่งกลับมาในกลุ่มไลน์ ซึ่งจะเป็นการโน้มน้าวผู้ปกครองในทางอ้อม

“กลับจากงานนี้จะผลิตสื่อให้หลากหลายมากขึ้น เพื่อส่งเสริมทักษะทางสมองของเด็ก (Executive Function : EF) ตอนนี้มีสื่อการสอนของตนเองเรียกว่า จิรภาโมเดล และเตรียมขยายผลไปยังศูนย์เด็กเล็กรอบ ๆ โรงเรียนของเรา และมีแผนจะขยายไปยังโรงเรียนบนดอย อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นความสำคัญของเด็กปฐมวัย และให้ความสำคัญของโครงการนี้ แล้วก็สนับสนุนคุณครูทุกโรงเรียนที่มีเด็กเล็ก ไม่ใช่แค่โรงเรียนที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ เท่านั้น อยากให้โครงการปลูกพลังบวกฯ เป็นนโยบายที่เข้าถึงทุกโรงเรียนที่มีเด็กปฐมวัย” นางสาวจิรภา กล่าว

เอกสารอ้างอิง

สมาคมพัฒนาการและพฤติกรรมเด็ก. (2567). สสส.และเครือข่ายงดเหล้า เดินหน้าต่อเนื่อง “ปลูกพลังบวก” สร้างภูมิคุ้มกันลดปัจจัยเสี่ยงเหล้า-บุหรี่ ปฐมวัย ตั้งเป้าขยาย พื้นที่เพิ่ม 5 จังหวัด. สืบค้นเมื่อ 29 เมษายน 2567 จาก  https://dol.thaihealth.or.th/Media/Index/088bf7d2-d8fd-ee11-8105-00155d1aab76#

ไทยรัฐ ออนไลน์. (2567). สสส.-เครือข่ายงดเหล้า “ปลูกพลังบวก” สร้างภูมิคุ้มกันลดเสี่ยงเหล้า-บุหรี่. สืบค้นเมื่อ 29 เมษายน 2567 จาก  https://www.thairath.co.th/news/local/2777200?gallery_id=7